ประวัติราชบุรี

ประวัติความเป็นมาของจังหวัดราชบุรี

(เมืองราชบุรี ปี พ.ศ.2500)     แหล่งที่มาของภาพ : http://www.skyscrapercity.com/
          จังหวัดราชบุรีมีชื่ออันเป็นมงคลยิ่ง หมายถึง ” เมืองพระราชาราชบุรีเป็นเมืองเก่าแก่ เมืองหนึ่งของประเทศไทย จากการศึกษาและขุดค้นของ นักประวัติศาสตร์  นักโบราณคดี  พบว่าดินแดนแถบลุ่ม  แม่น้ำแม่กลองแห่งนี้เป็น ถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของคนหลายยุคหลายสมัย  และมีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต จากหลักฐานทางโบราณสถานและโบราณวัตถุมาก ทำให้เชื่อได้ว่ามีผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่ ใน  บริเวณนี้ตั้งแต่ยุคหินกลาง  ตลอดจนได้ค้นพบเมืองโบราณสมัยทราวดีที่ตำบลคูบัว  อำเภอเมืองราชบุรี  พระบาทสมเด็จพระยุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ได้เคยดำรงตำแหน่งหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรีในสมัยกรุง ศรีอยุธยา  ตอนปลาย  ซึ่งในช่วงปลายสมัย กรุงศรีอยุธยาและตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์  ปรากฎหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า  เมืองราชบุรีเป็นเมือง    หน้าด่านที่สำคัญ  และ  เป็นสมรภูมิการรบหลายสมัย    โดยเฉพาะในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้ยกทัพมาตั้งรับศึกพม่าในเขต ราชบุรีหลายครั้ง   ครั้งสำคัญที่สุดคือสงครามเก้าทัพ    ต่อมา พ.ศ. 2360  ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้โปรดเกล้าฯ  ให้สร้างกำแพงเมืองใหม่ทาง ฝั่งซ้ายของแม่น้ำแม่กลองตลอดมาจนถึงปัจจุบัน  ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวใน   พ.ศ. 2437  ได้ทรงเปลี่ยนการปกครองส่วนภูมิภาคโดยรวมหัวเมืองต่างๆ  ที่อยู่ใกล้ชิดกัน  ตั้งขึ้นเป็นมณฑล  และได้รวมเมืองราชบุรี  เมืองกาญจนบุรี  เมืองสมุทรสงคราม   เมืองเพชรบุรี  เมืองปราณบุรี  เมืองประจวบคีรีขันธ์     รวม 6 เมือง  ตั้งขึ้นเป็นมณฑลราชบุรี  ตั้งที่บัญชาการมณฑล  ณ  ที่เมืองราชบุรี ทางฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง     (ปัจจุบันคือศาลากลางจังหวัดราชบุรีหลังเก่า)  ต่อมาใน  พ.ศ.  2440  ได้ย้ายที่บัญชาการเมืองราชบุรี  จากฝั่งซ้าย กลับมาตั้งรวมอยู่แห่งเดียวกับศาลาว่าการมณฑลราชุบรี  ทางฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง  จนถึง พ.ศ. 2476    เมื่อได้มีการยกเลิกการปกครองแบบมณฑลทั้งหมด  มณฑลราชบุรีจึงถูกยกเลิกและคงฐานะเป็นจังหวัดราชุบรีจนถึงปัจจุบัน

ตราประจำจังหวัดราชบุรี
          ตราประจำจังหวัดแต่เดิมเป็นอาร์ม (Arm) วงกลม ใช้สัญลักษณ์รูปน้ำหลากทุ่ง มีภูเขาเป็นฉากหลัง ล้อมรอบด้วยงูใหญ่   ส่วนท้องฟ้าเหนือภูเขานั้นมีตราครุฑซึ่งใช้เป็นตราแผ่นดินและเครื่องหมายของ ทางราชการ กำกับด้วยข้อความว่า “จังหวัดราชบุรี”   ที่ตอนล่างภายในกรอบอาร์ม หมายความถึง “เขางู” อันเป็นสถานที่สำคัญและรู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งในหมู่ชาวราชบุรีเองและ ชาวจังหวัดใกล้เคียง
          ตราประจำจังหวัดดังกล่าวเริ่มปรากฏใช้ครั้งแรกเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๐   สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นคราวเดียวกับที่กระทรวงศึกษาธิการได้ฟื้นฟูกิจการลูก เสือแห่งชาติโดยขอความร่วมมือให้แต่ละจังหวัดกำหนดตราสัญลักษณ์ขึ้น   เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายสำหรับติดผ้าพันคอแสดงภูมิลำเนาของกองลูกเสือซึ่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดนั้นๆ
          จังหวัดราชบุรีได้ใช้สัญลักษณ์ “เขางู” เป็นตราประจำจังหวัดตั้งแต่นั้นมา   จนกระทั่งถึงปีพุทธศักราช ๒๕๐๙ จึงเห็นว่า  “เขางู” นั้นสื่อความหมายไปในแง่ของโบราณสถาน มิได้มีความหมายเกี่ยวพันกับชื่อของ จังหวัดว่า “ราชบุรี”(บาลี,ราช + ปรุ  หมายถึง เมืองแห่งพระราชา)   แต่ประการใดจึงเป็นการสมควรที่จะกำหนดสัญลักษณ์ประจำจังหวัดแทนตราเดิมที่ ใช้อยู่   โดยได้มีหนังสือแจ้งความประสงค์ไปยังกรมการปกครองขอให้กรมศิลปากรพิจารณาออก แบบให้ต่อไป

ตราประจำจังหวัดราชบุรี (ปัจจุบัน)
          สำหรับดวง ตราใหม่นั้นทางกรมศิลปากรได้มอบหมายให้งานศิลปประยุกต์กองหัตถศิลปะ (ปัจจุบันเป็นสถาบันศิลปกรรม) โดยนายพินิจ   สุวรรณบุณย์ เป็นผู้คิดค้นออกแบบ  ลักษณะของดวงตราเป็นอาร์มวงกลมใช้สัญลักษณ์รูปเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของพระมหา กษัตริย์ ๒ สิ่งคือ   พระแสงขรรค์ชัยศรีประดิษฐานอยู่บนบันไดแก้ว  และฉลองพระบาทคู่ประดิษฐานอยู่บนพานรองขอบอาร์มเป็นลายชื่อกนกประกอบพื้น ช่องไฟใช้สีตามความเหมาะสมสวยงามด้านศิลปะ   ทั้งนี้ได้แนวความคิดมาจากหลักฐาน  “รูปฉลองพระบาทคู่ประดิษฐานอยู่บนพานรอง” ที่ปรากฏบนผืนธงซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว   ได้พระราชทานให้แก่กองเสือป่ามณฑลราชบุรี เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๖๗   ซึ่งปัจจุบันธงข้างต้นเก็บรักษาไว้ที่ห้องพิพิธภัณฑ์ของโรงเรียนเบญจมราชู ทิศ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
          จังหวัดราชบุรีโดยสภาจังหวัดได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติให้ใช้ตราสัญลักษณ์ ใหม่นี้เป็นตราประจำจังหวัดเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๐๙   เป็นต้นมาตราบจนปัจจุบันนี้
*ที่มา : http://www.paktho.ac.th/ratchaburi/ratchaburi1/the-brand-is-provincial.html


ความหมายของตราประจำจังหวัดราชบุรี

          เครื่อง ราชกกุธภัณฑ์ 2 อย่างคือ
          1. ภาพฉลองพระบาทอยู่บนพานทอง
          2. ภาพพระแสงขรรค์ชัยศรี ซึ่งวางอยู่บนพระที่ เพราะชื่อจังหวัดราชบุรี มีความหมายว่า เมืองของพระราชา
ธงประจำกองลูกเสือมณฑลราชบุรี

          มณฑลราชบุรี พื้นธงสีน้ำเงินแก่ กลางธงมีรูปรองพระบาทวางบนพานทอง เพื่อให้ลูกเสือทุกคนระลึกว่า มณฑลนี้เป็นมณฑลสำคัญทางทิศตะวันตกของกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับมณฑลปราจีนซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก และลูกเสือทุกคนก็มีความจงรักภักดีเพื่อทำการฉลองพระเดชพระคุณ จึงพระราชทานเครื่องหมายนี้เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงพระองค์อยู่เสมอ ธงนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๗ เนื่องในการเสด็จทอดพระเนตรการประลองยุทธเสือป่าและลูกเสือ
คำขวัญจังหวัดราชบุรี
          คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่ง เมืองโอ่งมังกร วัดขนอนหนังใหญ่ ตื่นใจถ้ำงาม ตลาดน้ำดำเนิน เพลินค้างคาวร้อยล้าน ย่านยี่สกปลาดี
ที่มาของคำขวัญ
          คำขวัญจังหวัดราชบุรีนี้เริ่มใช้เมื่อจังหวัดราชบุรีเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน กีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 5 และงานมหกรรมของดีเมืองราชบุรี พ.ศ. 2532 ซึ่งในความหมายของคำขวัญนั้นสามารถนำมากล่าวได้ดังนี้
คนสวยโพธาราม
          สันนิษฐานว่าคงมีที่มาจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัวในคราวเสด็จพระราชดำเนินกลับจากประพาสไทรโยคทางชลมารคครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ.2431แล้วได้ประทับพักร้อนบนพลับพลาและเสด็จประพาสตลาดโพธาราม ซึ่งราษฎรทั้งชาวไทย จีน มอญ และลาวเฝ้ารับเสด็จด้วยเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับสวยงสมจนมีพระราชดำรัสชมว่า “คนโพธารามนี้สวย” หรืออีกนัยหนึ่งหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ได้อธิบายไว้ว่าเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จ พระราชดำเนินนำกองเสือป่าไปซ้อมรบที่ค่ายหลวงบ้านไร่อำเภอโพธาราม ได้มีราษฎรชาวโพธารามรับเสด็จถวายการรับใช้อย่างใกล้ขิด จึงมีพระราชดำรัสชมว่า “คนสวยโพธารามสวยมีน้ำใจดี”
ดอกไม้ประจำจังหวัดราชบุรี
คนงามบ้านโป่ง 
          สันนิษฐาน ว่าคงมีที่มาจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในคราว เสด็จพระราชดำเนินกลับจากประพาสไทรโยคทางชลมารคครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ. 2431 ขณะพระราชดำเนินถึงบ้านโป่งนายอำเภอนำราษฎรไปเฝ้ารอรับเสด็จเป็นจำนวนมาก เมื่อเสด็จขึ้นฝั่งทรงเห็นราษฎรที่มาเฝ้าแต่งกายเรียบร้อบและหมอบกราบกัน อย่างพร้อมเพรียงสวยงามจึงมีพระราชดำรัสชมว่า”คนบ้านโป่งนี้งาม” ทั้งนี้คำขวัญที่ว่า “คนสวยโพธาราม คนงามบ้านโป่ง” นั้นเป็นคำขวัญที่บ่งบอกถึงจริยธรรมอันดีงามของชาวโพธารามและชาวบ้านโป่งที่ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้มีน้ำใจไมตรีอันดีงาม พูดจาไพเราะ และงามพร้อมด้วยกิริยามารยาท
เมืองโอ่งมังกร
          ที่มามาจากการที่ราชบุรีเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านอุตสาหกรรมผลิต เครื่องเคลือบดินเผาที่มีคุณภาพโดยเฉพาะโอ่งมังกรซึ่งมีประวัติการผลิตที่ ยาวนานและเป็นที่รู้จักกันดีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดราชบุรีในปัจจุบัน
วัดขนอนหนังใหญ่
          มีที่มาจากการที่หนังใหญ่วัดขนอน ตำบลสร้อยฟ้า อำเภอโพธาราม นับเป็นหนังใหญ่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่ามีการสืบทอดกัน มายาวนานนับเป็นร้อยปีและมีการอนุรักษ์กันอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ตลอดจนเป็นหนังใหญ่ที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คณะในประเทศไทยที่ยังคงมีการ สืบทอดอยู่ในปัจจุบัน
ตื่นใจถ้ำงาม
          มีถ้ำที่งดงามมาก ๆ อยู่หลายแห่ง แต่ที่ขึ้นชื่อคือถ้ำเขาบิน และถ้ำจอมพล
ตลาดน้ำดำเนิน
          ตลาด น้ำดำเนินสะดวก หรือ ตลาดน้ำคลองลัดพลี ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอดำเนินสะดวกไปประมาณ 400 ม. เป็นตลาดค้าขายทางน้ำที่ยังคงวิถีชีวิตไทยดั้งเดิมไว้ มีสิ่งของให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะผลิตผลทางการเกษตร
เพลินค้างคาวร้อยล้าน
          ค้างคาวเขาช่องพราน เวลาเย็นที่ค้างคาวจะบินออกจากถ้ำมาให้ชม นับจำนวนไม่ได้ ใช้เวลาบินออกจากถ้ำเป็นชั่วโมงกว่าจะหมด ประมาณกันว่ามีจำนวนเป็นร้อยล้านตัว
ย่านยี่สกปลาดี
          ปลายี่สก เป็นปลาที่ขึ้นชื่อของลุ่มน้ำแม่กลอง แต่ว่ากันว่ารสชาติของปลาจะดีที่สุดเมื่อมาเจริญเติบโตในแถบจังหวัดราชบุรี
*ที่มา : http://www.paktho.ac.th/ratchaburi/ratchaburi1/province%20slogan.html